อุปกรณ์นักสืบจิ๋ว
รองเท้าเสริมพลัง เป็นรองเท้าที่ใช้สำหรับการเตะสิ่งของให้โดนเป้า และสามารถปรับระดับความแรงในการเตะได้
หูกระต่ายเปลี่ยนเสียง ใช้ในการแปลงเสียงให้เป็นเสียงเดียวกับคนที่หลับอยู่เพื่อคลี่คลายคดี ราวกับว่า คนที่หลับนั้นกำลังคลี่คลายคดีอยู่
(ของโมริ โคโกโร่นั้น เบอร์ 59)
ลำโพงจิ๋ว ใช้สำหรับคลี่คลายคดี โดยที่ไม่มีใครสงสัยว่า ตัวโคนันเองเป็นคนไขคดีเองหมด
แว่นตาเรดาห์ เป็นแว่นตาที่สามารถหาพิกัดของเป้าหมายนั้นๆได้
โทรศัพท์ต่างหู เป็นโทรศัพท์ในรูปของต่างหู ใช้ในตอนเดียวคือ ตอนในเล่ม14-15
สเก็ตบอร์ดแสงอาทิตย์ เป็นสเก็ตบอร์ดที่เคลื่อนไหวได้โดยใช้พลังงานของแสงอาทิตย์
แว่นตากันกระสุน ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่ามีหน้าที่กันกระสุนที่จะทะลุถึงตาได้ ใช้แค่ภาคหนังโรงภาคที่3ที่ชื่อว่า The Wizard of Century เท่านั้น
นาฬิกาไฟฉาย เป็นทั้งนาฬิกาและไฟฉาย ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำหรับชมรมนักสืบรุ่นจิ๋ว
เข็มกลัดนักสืบ เป็นเข็มกลัดที่ใช้ในการสื่อสารกันระหว่างสมาชิกของชมรมนักสืบรุ่นจิ๋ว
เรื่องย่อ
คุโด้ ชินอิจิ นักสืบหนุ่ม นักเรียนมัธยมปลาย โรงเรียนเทย์ตัน ซึ่งกำลังโด่งดังสุดขีด เพราะคลี่คลายคดียากๆมาหลายคดี และได้เป็นผู้ช่วยของส.เมงูเระด้วย
วันหนึ่ง ชินอิจิ ได้ไปเที่ยวด้วยกันกับ โมริ รัน เพื่อนรัก และเผอิญได้พบกับกลุ่มชายชุดดำท่าทางน่าสงสัย ด้วยความที่เป็นคนช่างสงสัย ชินอิจิก็ได้สะกดรอยตามเขาไป และก็ได้ยินเรื่องที่เขาคุยกับ แต่ทว่า ชินอิจิก็โดนชายชุดดำลอบทำร้าย และโดนจับกรอกยา จนทำให้ตัวหดเล็กลงกลายเป็นเด็กอายุ 6ขวบ
พอรู้สึกตัว ชินอิจิก็รีบไปหาดร.อากาสะ เพื่อขอความช่วยเหลือ และดร.ก็กำชับว่าอย่าบอกใคร พร้อมกับเปลี่ยนชื่อเสียงเรียงนามใหม่ว่า เอโดงาวะ โคนัน จากนั้น ก็ย้ายไปอยู่สำนักงานนักสืบซึ่งก็เป็นบ้านของรันนั่นเอง เพื่อสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับชายชุดดำไปในตัวด้วย
แต่จนแล้วจนเล่าสืบหาเบาะแสเกี่ยวกับชายชุดดำก็ยังไม่คืบหน้า แถมนักสืบที่ไม่ค่อยได้เรื่องได้ราวอย่าง โมริ โคโกโร่ พ่อของรันนั้นกลับมีชื่อเสียงมากขึ้นทุกวัน แถมต้องมาร่วมกลุ่มเด็กๆชมรมนักสืบรุ่นจิ๋วด้วย แต่จนกระทั่งวันนึงก็มีเด็กผู้หญิงลึกลับคนหนึ่ง ได้ปรากฎตัวขึ้น ซึ่งเธอคือ ไฮบาระ ไอ เธอบอกกับชินอิจิ ว่า เธอเป็นคนผลิตยาที่ชินอิจิถูกกรอก ซึ่งยานั่นก็คือ APTX 4869 และเธอก็ได้หลบหนีออกจากองค์กรลับนั่น เนื่องจากไม่พอใจการกระทำของคนในองค์กร ดังนั้น เขา(โคนัน)และเธอจะต้องช่วยกันสืบหาเบาะแสและจัดการกับองค์กรชุดดำ รวมถึงการกลับมาเป็นร่างเดิมของพวกเขาทั้งคู่ ..........
ความคืบหน้าในการตามหาชายชุดดำ
ยิ่งโคนันเพิ่มจำนวนเล่มมากขึ้น แต่เบาะแสในการตามหากลุ่มชายชุดดำก็ยังไม่ไปไหนซะที เชื่อว่าผู้อ่านบางคนถึงกับเซ็ง แถมรำพึงรำพันว่า ตกลงโคนันไม่อยากจะกลับร่างเดิมจริงหรือ? แถมจะต้องปิดบังตัวเองไม่ให้รันได้สงสัยอีก(ทั้งๆที่รันเกือบจับได้หลายตอนแล้ว) ก็เลยจะสรุปเกี่ยบกับความคืบหน้าเกี่ยบกับชายชุดดำของโคนันตั้งแต่เล่มแรกถึงเล่มล่าสุดกัน
เล่ม 1 นักสืบม.ปลาย คุโด้ ชินอิจิ ถูกชายลึกลับในชุดดำ 2 คนจับกรอกยาพิษ กลายเป็นเอโดงาวะ โคนัน และ ย้ายไปหาเบาะแสที่สำนักงานนักสืบโมริ บ้านของรันตามคำแนะนำของดร.อากาสะ
เล่ม 2 ฮิโรตะ มาซามิ(มิยาโนะ อาเคมิ) ถูกชายลึกลับในชุดดำทั้ง2คน สังหารปิดปาก โดยโคนันรู้แต่ว่า เธอเป็นคนขององค์กรชุดดำเช่นกัน
เล่ม 4 เกิดคดีวางระเบิดในรถไฟความเร็วสูง แต่โคนันช่วยชีวิตทุกคนในรถไฟลำนั้นได้ และ รู้ชื่อโค้ดเนมของชายทั้ง2คนนั้นว่า ยิน และ ว้อดก้า
เล่ม 5-6 โคนันถูกลักพาตัวโดยกลุ่มคนลึกลับ ที่สงสัยว่าเป็นกลุ่มชายชุดดำ แต่สุดท้ายเป็นเรื่องโอละพ่อ เพราะ กลุ่มคนที่ลึกลับนั้นก็คือ พ่อแม่ของชินอิจิ กับ ดร.อากาสะ วางแผนกันเพื่อทดสอบโคนันนั้นเอง
เล่ม 12 เตกีล่า สมาชิกขององค์กรชุดดำถูกลอบสังหาร แต่ ยิน กับ ว้อดก้า ก็จัดการวางระเบิดตึกนั้น โคนันก็เลยตามหาเบาะแสไม่ทัน
เล่ม 18 ไฮบาระ ไอ สาวน้อยปริศนาปรากฏตัว และ เผยว่า ยาที่ชินอิจิกินนั้น เป็น APTX 4869 ซึ่งตัวเธอเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเอง และ บอกอีกว่า เธอมีโค้ดเนมในองค์กรคือ เชอรี่ แต่เธอก็หนีออกจากองค์กรด้วยยาที่เธอทำเอง และแน่นอนว่า คนในองค์กรกำลังตามหาเธออยู่
เล่ม 19 ไฮบาระ เสียใจที่ โคนัน ไม่สามารถช่วยชีวิตพี่สาวของเธอได้ ซึ่ง พี่สาวของเธอนั้น ก็คือ มิยาโนะ อาเคมิ ที่ยืมชื่อของ ฮิโรตะ มาซามิ ซึ่งเป็นเหยื่อฆาตกรรมในคดีตอนท้ายเล่ม18 แถมโปรแกรมที่พวกเขาได้มาก็ถูกไวรัสขององค์กรชุดดำทำลายจนหมด
เล่ม 24 โคนันกับไฮบาระ ก็แอบสะกดรอยตาม ยิน และ ว้อดก้า มาที่งานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ต่อมา ไฮบาระก็ถูกจับตัว แต่ก็ได้เหล้าจีนช่วยคืนร่างเดิมก็เลยหนีออกมาได้ แต่ไม่วายถูกยินยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แถม ปิสโก้ สมาชิกในองค์กรชุดดำก็เผยตัว หมายจะสังหารไฮบาระ แต่โคนันก็ช่วยชีวิตเธอได้ และสุดท้าย ปิสโก้ก็ถูกยินสังหาร เนื่องจากทำงานผิดพลาด รวมถึง เปิดตัว เบลม็อต(เวอร์มอต)หรือ คริส วินยาร์ดว่า เป็นพวกชุดดำอีกด้วย มีจุดประสงค์จะตามตัวคนๆหนึ่ง
เล่ม 26 ไฮบาระ คิดค้นยาที่ช่วยกลับคืนร่างเดิม ให้ โคนันได้กลับมาเป็นชินอิจิตามเดิม แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น
เล่ม 27 อ.โจดี้ เซนต์มิลเลี่ยน (ซันมาริออน)ปรากฎตัว แถมทิ้งปริศนาลึกลับเอาไว้ในตอนท้ายด้วยว่า เธอเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มองค์กรชุดดำ
เล่ม 29 ไฮบาระ หวาดกลัว เพราะ ได้กลิ่นของคนในองค์กร แถมต่อมาก็เกิดคดีปล้นจี้บนรถเมล์อีก และแน่นอนว่า อ.โจดี้ก็ยังน่าสงสัย พร้อมตอนท้าย อาคาอิ ชูอิจิชายลึกลับก็ปรากฏตัว
เล่ม 32 เจมส์ แบล็ค ชายลึกลับปรากฏตัว แถมรู้จักกับ อาคาอิ ชูอิจิ เป็นการส่วนตัวด้วย
เล่ม 33 โคนัน ได้ข่าวจาก ผู้หมวดทาคางิว่า มีคนลึกลับป้วนเปี้ยนแถวสำนักงานนักสืบโมริบ่อยๆ แถมแฟ้มคดีก็หาย และชายลึกลับคนนั้นก็คือ อาคาอิ ชูอิจิ
เล่ม 34 โคนัน กับ ฮัตโตริ เฮย์จิ สงสัยในตัวอ.โจดี้มาก จึงไปสืบที่บ้านพักของอ.โจดี้ แต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไร
เล่ม 34 ดร. อากาสะ ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ คำพูดปริศนาของ คริส วินยาร์ด ในงานศพ คุณแม่ของเธอ คือ ชารอน วินยาร์ด
เล่ม 35 เผยอดีตในคดี Golden Apple ที่ รัน ชินอิจิ ได้พบกับ ชารอน วินยาร์ด เป็นครั้งแรก แถมรัน ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก อาคาอิ ชูอิจิ และรันก็เข้าใจว่า ชูอิจิ คือ FBI
เล่ม 35 ไฮบาระ บอกว่า นุมาบุจิ คิอิจิโร่ อาชญากรที่โคนันเคยเจอในเล่ม19 แท้จริง ก็เป็นพวกคนชุดดำเช่นกัน
เล่ม 37-38 นักพัฒนาระบบเกมส์ที่ถูกฆาตกรรมนั้น จริงๆแล้วก็คือคนในองค์กรชุดดำ โคนันก็เลยวางแผนสะกดรอยไปตามจับว้อดก้า แต่แผนนี้ก็ล้มเหลว เพราะ ยินรู้แผนการของโคนันหมดแล้ว
เล่ม 41 เบลม็อตอ้างว่าพบตัวของไฮบาระแล้ว
เล่ม 42 อ.โจดี้ ก็กระชากหน้ากากของเบลม็อตที่ปลอมตัวเป็น คุณหมอ อาราอิเดะ (ปรากฎตัวในเล่ม24) แถมยังเผยว่า ตัวเธอเป็น FBI จะมาตามจับเบลม็อตที่เคยฆ่าพ่อของเธอเมื่อ20ปีที่แล้ว และยังบอกอีกว่า ตัวจริงของเบลม็อตก็คือ ชารอน วินยาร์ดที่หลายๆคนคิดว่าตายไปแล้วนั่นเอง ก็เลยเกิดการต่อสู้กัน แต่ชูอิจิมาช่วยไว้ได้ทัน เบลม็อตก็เลยรีบหนีและก็รู้ความจริงว่าเป็นแผนการทั้งหมดของโคนัน เบลม็อตก็เลยใช้ยาสลบใส่โคนันและนำเทปนั้นไปทำลาย
เล่ม 43 ไฮบาระ ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโครงการคุ้มกันพยาน ที่ โจดี้ เป็นคนเสนอมา โดยเธอกล่าวว่า เธอไม่อยากจะหลบหนีอีกแล้ว......
เล่ม 48-49 โคนันพบกับความจริงที่ว่า มิซึนาชิ เรย์นะ นักข่าวสาวชื่อดัง จริงๆแล้วก็เป็นคนในองค์กรชุดดำ โดยใช้โค้ดเนมว่า คีร์ โคนัน กับ อ.โจดี้ ก็ช่วยกันตามสืบและพบว่า คีร์ ยิน ว้อดก้า เบลม็อต และ สมาชิกอีกสองคนคือ เคียนติ กับ กอร์น กำลังวางแผนกันเพื่อสังหารบุคคลคนหนึ่ง โคนันและโจดี้ รวมไปถึง เจมส์ แบล็ค ก็สามารถหยุดแผนการนี้ได้ โดยที่คีร์ ได้รับบาดเจ็บหนักจนสลบไม่ได้สติ และ อยู่ในการดูแลของตำรวจFBI ในขณะที่ ยิน และ พรรคพวกที่เหลือ ก็เกือบสังหารโมริ โคโกโร่ เพราะคิดว่าโคโกโร่เป็นคนติดเครื่องดักฟัง แต่ก็ถูกขัดขวางโดย อากาอิ ชูอิจิ
เล่ม 1 นักสืบม.ปลาย คุโด้ ชินอิจิ ถูกชายลึกลับในชุดดำ 2 คนจับกรอกยาพิษ กลายเป็นเอโดงาวะ โคนัน และ ย้ายไปหาเบาะแสที่สำนักงานนักสืบโมริ บ้านของรันตามคำแนะนำของดร.อากาสะ
เล่ม 2 ฮิโรตะ มาซามิ(มิยาโนะ อาเคมิ) ถูกชายลึกลับในชุดดำทั้ง2คน สังหารปิดปาก โดยโคนันรู้แต่ว่า เธอเป็นคนขององค์กรชุดดำเช่นกัน
เล่ม 4 เกิดคดีวางระเบิดในรถไฟความเร็วสูง แต่โคนันช่วยชีวิตทุกคนในรถไฟลำนั้นได้ และ รู้ชื่อโค้ดเนมของชายทั้ง2คนนั้นว่า ยิน และ ว้อดก้า
เล่ม 5-6 โคนันถูกลักพาตัวโดยกลุ่มคนลึกลับ ที่สงสัยว่าเป็นกลุ่มชายชุดดำ แต่สุดท้ายเป็นเรื่องโอละพ่อ เพราะ กลุ่มคนที่ลึกลับนั้นก็คือ พ่อแม่ของชินอิจิ กับ ดร.อากาสะ วางแผนกันเพื่อทดสอบโคนันนั้นเอง
เล่ม 12 เตกีล่า สมาชิกขององค์กรชุดดำถูกลอบสังหาร แต่ ยิน กับ ว้อดก้า ก็จัดการวางระเบิดตึกนั้น โคนันก็เลยตามหาเบาะแสไม่ทัน
เล่ม 18 ไฮบาระ ไอ สาวน้อยปริศนาปรากฏตัว และ เผยว่า ยาที่ชินอิจิกินนั้น เป็น APTX 4869 ซึ่งตัวเธอเป็นคนคิดค้นขึ้นมาเอง และ บอกอีกว่า เธอมีโค้ดเนมในองค์กรคือ เชอรี่ แต่เธอก็หนีออกจากองค์กรด้วยยาที่เธอทำเอง และแน่นอนว่า คนในองค์กรกำลังตามหาเธออยู่
เล่ม 19 ไฮบาระ เสียใจที่ โคนัน ไม่สามารถช่วยชีวิตพี่สาวของเธอได้ ซึ่ง พี่สาวของเธอนั้น ก็คือ มิยาโนะ อาเคมิ ที่ยืมชื่อของ ฮิโรตะ มาซามิ ซึ่งเป็นเหยื่อฆาตกรรมในคดีตอนท้ายเล่ม18 แถมโปรแกรมที่พวกเขาได้มาก็ถูกไวรัสขององค์กรชุดดำทำลายจนหมด
เล่ม 24 โคนันกับไฮบาระ ก็แอบสะกดรอยตาม ยิน และ ว้อดก้า มาที่งานเลี้ยงแห่งหนึ่ง ต่อมา ไฮบาระก็ถูกจับตัว แต่ก็ได้เหล้าจีนช่วยคืนร่างเดิมก็เลยหนีออกมาได้ แต่ไม่วายถูกยินยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส แถม ปิสโก้ สมาชิกในองค์กรชุดดำก็เผยตัว หมายจะสังหารไฮบาระ แต่โคนันก็ช่วยชีวิตเธอได้ และสุดท้าย ปิสโก้ก็ถูกยินสังหาร เนื่องจากทำงานผิดพลาด รวมถึง เปิดตัว เบลม็อต(เวอร์มอต)หรือ คริส วินยาร์ดว่า เป็นพวกชุดดำอีกด้วย มีจุดประสงค์จะตามตัวคนๆหนึ่ง
เล่ม 26 ไฮบาระ คิดค้นยาที่ช่วยกลับคืนร่างเดิม ให้ โคนันได้กลับมาเป็นชินอิจิตามเดิม แต่ก็แค่ชั่วคราวเท่านั้น
เล่ม 27 อ.โจดี้ เซนต์มิลเลี่ยน (ซันมาริออน)ปรากฎตัว แถมทิ้งปริศนาลึกลับเอาไว้ในตอนท้ายด้วยว่า เธอเกี่ยวข้องอะไรกับกลุ่มองค์กรชุดดำ
เล่ม 29 ไฮบาระ หวาดกลัว เพราะ ได้กลิ่นของคนในองค์กร แถมต่อมาก็เกิดคดีปล้นจี้บนรถเมล์อีก และแน่นอนว่า อ.โจดี้ก็ยังน่าสงสัย พร้อมตอนท้าย อาคาอิ ชูอิจิชายลึกลับก็ปรากฏตัว
เล่ม 32 เจมส์ แบล็ค ชายลึกลับปรากฏตัว แถมรู้จักกับ อาคาอิ ชูอิจิ เป็นการส่วนตัวด้วย
เล่ม 33 โคนัน ได้ข่าวจาก ผู้หมวดทาคางิว่า มีคนลึกลับป้วนเปี้ยนแถวสำนักงานนักสืบโมริบ่อยๆ แถมแฟ้มคดีก็หาย และชายลึกลับคนนั้นก็คือ อาคาอิ ชูอิจิ
เล่ม 34 โคนัน กับ ฮัตโตริ เฮย์จิ สงสัยในตัวอ.โจดี้มาก จึงไปสืบที่บ้านพักของอ.โจดี้ แต่ก็ไม่พบเบาะแสอะไร
เล่ม 34 ดร. อากาสะ ได้ข้อมูลเกี่ยวกับ คำพูดปริศนาของ คริส วินยาร์ด ในงานศพ คุณแม่ของเธอ คือ ชารอน วินยาร์ด
เล่ม 35 เผยอดีตในคดี Golden Apple ที่ รัน ชินอิจิ ได้พบกับ ชารอน วินยาร์ด เป็นครั้งแรก แถมรัน ก็ได้รับการช่วยเหลือจาก อาคาอิ ชูอิจิ และรันก็เข้าใจว่า ชูอิจิ คือ FBI
เล่ม 35 ไฮบาระ บอกว่า นุมาบุจิ คิอิจิโร่ อาชญากรที่โคนันเคยเจอในเล่ม19 แท้จริง ก็เป็นพวกคนชุดดำเช่นกัน
เล่ม 37-38 นักพัฒนาระบบเกมส์ที่ถูกฆาตกรรมนั้น จริงๆแล้วก็คือคนในองค์กรชุดดำ โคนันก็เลยวางแผนสะกดรอยไปตามจับว้อดก้า แต่แผนนี้ก็ล้มเหลว เพราะ ยินรู้แผนการของโคนันหมดแล้ว
เล่ม 41 เบลม็อตอ้างว่าพบตัวของไฮบาระแล้ว
เล่ม 42 อ.โจดี้ ก็กระชากหน้ากากของเบลม็อตที่ปลอมตัวเป็น คุณหมอ อาราอิเดะ (ปรากฎตัวในเล่ม24) แถมยังเผยว่า ตัวเธอเป็น FBI จะมาตามจับเบลม็อตที่เคยฆ่าพ่อของเธอเมื่อ20ปีที่แล้ว และยังบอกอีกว่า ตัวจริงของเบลม็อตก็คือ ชารอน วินยาร์ดที่หลายๆคนคิดว่าตายไปแล้วนั่นเอง ก็เลยเกิดการต่อสู้กัน แต่ชูอิจิมาช่วยไว้ได้ทัน เบลม็อตก็เลยรีบหนีและก็รู้ความจริงว่าเป็นแผนการทั้งหมดของโคนัน เบลม็อตก็เลยใช้ยาสลบใส่โคนันและนำเทปนั้นไปทำลาย
เล่ม 43 ไฮบาระ ปฏิเสธที่จะเข้าร่วมโครงการคุ้มกันพยาน ที่ โจดี้ เป็นคนเสนอมา โดยเธอกล่าวว่า เธอไม่อยากจะหลบหนีอีกแล้ว......
เล่ม 48-49 โคนันพบกับความจริงที่ว่า มิซึนาชิ เรย์นะ นักข่าวสาวชื่อดัง จริงๆแล้วก็เป็นคนในองค์กรชุดดำ โดยใช้โค้ดเนมว่า คีร์ โคนัน กับ อ.โจดี้ ก็ช่วยกันตามสืบและพบว่า คีร์ ยิน ว้อดก้า เบลม็อต และ สมาชิกอีกสองคนคือ เคียนติ กับ กอร์น กำลังวางแผนกันเพื่อสังหารบุคคลคนหนึ่ง โคนันและโจดี้ รวมไปถึง เจมส์ แบล็ค ก็สามารถหยุดแผนการนี้ได้ โดยที่คีร์ ได้รับบาดเจ็บหนักจนสลบไม่ได้สติ และ อยู่ในการดูแลของตำรวจFBI ในขณะที่ ยิน และ พรรคพวกที่เหลือ ก็เกือบสังหารโมริ โคโกโร่ เพราะคิดว่าโคโกโร่เป็นคนติดเครื่องดักฟัง แต่ก็ถูกขัดขวางโดย อากาอิ ชูอิจิ
เล่ม 49 ฮอนโด้ เอย์สึเกะ ปรากฏตัวครั้งแรก ในฐานะเพื่อนร่วมชั้นเรียนของรัน กับ โซโนโกะ
เล่ม 53 โคนันเริ่มสงสัยท่าทีแปลกๆของเอย์สึเกะ ดูเหมือนว่าเขาต้องการจะล้วงข้อมูลของมิซึนาชิ เรย์นะ
เล่ม 56 ฮัตโตริสืบค้นมาได้ว่า ที่โอซาก้ามีคนรู้จักกับเอย์สึเกะด้วย ต่อมาโคนันก็ไปได้รูปถ่ายของเอย์สึเกะตอนเด็ก กับ ชายลึกลับคนหนึ่ง จากเจ้าของร้านขายของโมเดล ซึ่งชายคนนั้นคือคุณพ่อของเอย์สึเกะ แถมยังเป็น"ลูกจ้างของคัมปานี" ด้วย ต่อจากนั้น โคนันได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากเพื่อนของโคโกโร่ ผู้เป็นแฟนคลับของเรย์นะคนนึง พบว่าในเทปการรายงานข่าวของเรย์นะเทปหนึ่ง ได้มีการเอ่ยถึงกรุ๊ปเลือดของเรย์นะ นั่นคือ กรุ๊ป AB ซึ่งก็ขัดกับที่เอย์สึเกะเคยบอกว่า เคยได้รับการถ่ายเลือดจากพี่สาวของตนที่สามารถแบ่งให้ทุกคนได้(กรุ๊ป O) โคนันจึงมุ่งประเด็นสงสัยว่า เอย์สึเกะ ต้องการตามหาเรย์นะ ในฐานะที่เป็นคนปลอมตัวเป็นพี่สาวของตน
เล่ม 57 โคนัน เอย์สึเกะ และ พวกรัน ไปยังบ้านที่คุณแม่ของเอย์สึเกะเคยทำงานมาก่อน และได้พบกับหลักฐานว่า เอย์สึเกะมีเลือดกรุ๊ปO ทำให้ได้ข้อสันนิษฐานว่า เรย์นะ กับ พี่สาวของเอย์สึเกะ เป็นคนละคนกัน แถมโจดี้ ยังบอกอีกว่า คุณพ่อของเอย์สึเกะ คือ ฮอนโด้ อีธาน เป็นเจ้าหน้าที่ CIA ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 4 ปีก่อน แถมผู้หญิงที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นก็มีหน้าตาเหมือนกับเรย์นะ
เล่ม 58-59 โคนัน กับ FBI วางแผนคุ้มกันเรย์นะ เพื่อไม่ให้พวกชายชุดดำได้นำกลับไป โดยพวกชุดดำก็วางแผนการต่างๆ เพื่อต้องการข้อมูลที่อยู่ของเรย์นะ ไม่ว่าจะส่งคนไปปลอมเป็นคนไข้,ป่วนเมือง,ส่งของขวัญเยี่ยมไข้ที่ฝังระเบิดเวลา+เครื่องส่งสัญญาณ จนกระทั่งรู้ที่อยู่ของเรย์นะ ทำให้ โคนัน กับ ชูอิจิ จึงวางแผนด้วยการยอมส่งตัวเรย์นะที่ได้สติคืนมาให้กับพวกชุดดำเหมือนเดิม แท้จริงแล้ว เรย์นะ เป็น CIA ที่แฝงตัวเข้าไปสืบพวกชุดดำ เช่นเดียวกับ อีธาน ซึ่งเป็นพ่อของเอย์สึเกะ อีกทั้ง เรย์นะ ยังเป็นพี่สาวแท้ๆของเอย์สึเกะอีกด้วย (เอย์สึเกะได้รับการปลูกถ่ายไขกระดูกจากเรย์นะ เพื่อรักษาโรคลูคีเมีย ทำให้กรุ๊ปเลือดของเอย์สึเกะกลายเป็นกรุ๊ป AB แทน) แต่โดนพวกชุดดำจับได้ซะก่อน ทำให้อีธานวางแผนปลิดชีพตัวเอง โดยทำทีว่า เรย์นะ เป็นคนสังหารเขาเพื่อให้เรย์นะคอยสืบพวกชุดดำต่อไป โดยเหตุผลที่ โคนัน กับ ชูอิจิ ต้องวางแผนส่งตัวเรย์นะให้พวกชุดดำ เพื่อที่จะให้เรย์นะนำข้อมูลที่สืบมาได้ ส่งให้กับ CIA และ FBI ด้วยเช่นกัน .....ทว่า ยิน เริ่มสงสัยในตัวเรย์นะ จึงสั่งให้เรย์นะ ไปสังหารชูอิจิ โดยนัดชูอิจิไปพบยังที่แห่งหนึ่ง และเธอก็ลั่นไกยิงใส่ชูอิจิ จนล้มลง พร้อมกับเผาร่างของเขาเพื่ออำพรางหลักฐาน!!!!!!
เล่ม 60 เอย์สึเกะ บอกกับโคนันว่า เขาตัดสินใจไปอเมริกา เพื่อเป็น CIA ตามรอยพี่สาว กับ คุณพ่อเขา แถมยังรู้ตัวจริงของโคนันอีกด้วย ส่วนโคนัน ได้ข่าวจากโจดี้ว่า พวกชุดดำได้ส่งสายสืบนาม"เบอร์บอน" ออกมา..
คำคม
สำหรับใครที่อ่านเรื่องนี้เป็นประจำ ก็จะพบว่ามีคำพูดหรือคำคมเด็ดๆจากตัวละครในเรื่องก็หลายตอน ซึ่งส่วนใหญ่มักแฝงปรัชญาเกี่ยวกับการเตือนสติการกระทำของผู้ร้ายหรือตำรวจ โดยผมจะยกคำคมเด็ดๆมาแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น
หมายเหตุ ตัวเลขในวงเล็บคือ เล่มที่คุณสามารถหาคำพูดเหล่านี้ได้
“การคลี่คลายน่ะ ไม่มีแพ้หรือชนะ ไม่มีหนึ่งไม่มีสอง แต่มีความจริงเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น” กล่าวโดย ชินอิจิ ตอนกำลังเตือนสติ ฮัตโตริ(10)
“นักสืบที่ต้อนคนร้ายจนมุมจนถึงต้องฆ่าตัวตายในที่สุด ไม่ต่างอะไรกับฆาตกรหรอก” กล่าวโดย โคนัน ซึ่งบอกกับฮัตโตริ(16)
“พวกทริกก็เหมือนอักษรปริศนาอักษรไขว้ที่คนคิดขึ้น คิดกันไปคิดกันมาได้คำตอบก็ตั้งเป็นทฤษฎีเยอะแยะมากมาย แต่ที่น่าสมเพช เหตุผลที่คนฆ่า คน ถึงจะตั้งทฤษฎีขึ้นมาอธิบายยังไงฉันก็ไม่เข้าใจ ถึงจะเข้าใจได้ ก็ทำใจยอมรับไม่ได้อยู่ดี” กล่าวโดย โคนัน
“ใครๆก็มีชีวิต ตัวเราก็มีชีวิต ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ที่ให้ใครขโมยไปไม่ได้เด็ดขาด ขึ้นชื่อว่าพรากชีวิตก็คือการฆ่าคนทั้งนั้น แม่จะเป็นชีวิตของตัวเอง ก็ตาม”
กล่าวโดย คุณแม่ของ ฮัตโตริ ตอนเตือนสติฆาตกร(28)
“ถ้าตัดความเป็นไปไม่ได้ออกไป สิ่งที่เหลือแม้จะไม่น่าเชื่อเพียงใดก็ตามแต่มันก็คือความจริง” กล่าวโดย โคนัน พูดกับฮัตโตริทางโทรศัพท์(28)
“ความอมตะ ไม่แก่ไม่ตายเป็นเรื่องเพ้อฝัน เมื่อชีวิตมีความจำกัดก็ควรถนอมมันไว้ ยิ่งมีจำกัดก็ต้องยิ่งพยายามดิ้นรน” กล่าวโดย ฮัตโตริ ซึ่งกำลังเตือนสติกับชาวเกาะไม่ให้งมงายกับความเชื่อนั้นมากเกินไป(28)
“การกระทำของคุณไม่ใช่การแก้แค้นให้ลูกชายเลย ไม่ใช่เพื่ออะไรทั้งนั้น เป็นแค่ความพอใจของตัวเอง เห็นชีวิตคนเป็นของเล่นเท่านั้น” กล่าวโดย สารวัตรเมงุเระ เตือนสติคนร้าย ขณะที่คนร้ายกำลังจะเข้ามาทำร้ายโซโนโกะ(29)
“ A secret makes a woman woman… ผู้หญิงที่มีความลับเป็นอาภรณ์ จะมีเสน่ห์ขึ้นเยอะทีเดียว” กล่าวโดย เบลม็อต พูดในตอนฝังศพแม่ของเขาเอง(34)
“อย่าหนีจากชะตาชีวิตของตัวเองเด็ดขาด” กล่าวโดย โคนัน ขณะเตือนสติไฮบาระ(29)
“การอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆต้องคอยกลัวว่าไม่รู้เมื่อไหร่จะถูกเจอมันน่าเบื่อซะจริงๆ” กล่าวโดย ไฮบาระ
“การรับรู้จิตสังหารของคนได้เป็นซิกเซ้นต์ของคนเป็นนักสืบ” กล่าวโดย โคนัน
“Even if you are a bitter aspect of life. Drugs and murder are foul without any excuse….. deserve a red card for a
loser….. แม้ว่าคุณจะต้องเผชิญกับเรื่องเศร้าเพียงใดก็ตาม ยาเสพติดกับการฆ่าคนก็เป็นวิธีสกปรกที่ไม่มีวันอภัยได้ สมควรที่จะต้องได้รับใบแดง”
กล่าวโดย โคนัน ขณะเตือนสติ เรย์ เคอร์ติส นักฟุตบอลคนโปรด ที่ดันเป็นฆาตกรซะเอง(29)
“คนที่ประสบความสำเร็จได้คือคนที่รู้จักโอกาส ถ้าจะมัวรอให้โอกาสแบบเดิมกลับมาใหม่ รอยังไง โอกาสก็ไม่กลับมาหรอก” กล่าวโดย เซมมะ ฟุรุโยะ
“คำว่ากล้าหาญเป็นคำแห่งคุณธรรมหมายถึงขจัดความกลัวของตนและลุกขึ้นสู้…..เอามาใช้กับเหตุผลในการฆ่าคนอย่างนี้มันไม่ถูก” กล่าวโดย โมริ รัน ขณะเตือนสติคนร้าย(31)
“จอมโจรคือ ศิลปินผู้รังสรรค์การขโมยสิ่งที่ต้องการอย่างวิจิตรงดงาม นักสืบก็คือคนที่คนที่คอยเกาะตามดูผลงาน….เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาๆเท่านั้น” กล่าวโดย จอมโจรคิด ในคราวที่เจอกับโคนันเป็นครั้งแรก(16)
ตัวต่อในจิ๊กซอว์…ถึงมันจะเป็นชิ้นเล็กๆ ดูแล้วต่างกันแต่ถ้าลองหมุนปรับหลายๆมุม ยังไงมันก็ต้องลงล็อกได้แน่นอน คำให้การที่แตกต่างกันของ พยานแต่ละคนก็คือตัวต่อของรูปพรรณคนร้ายที่เราจะต้องนำมาใส่และทำหายไม่ได้แม่แต่ชิ้นเดียว”
กล่าวโดย ชินอิจิ ตอนพูดกับไฮบาระขณะไขคดีฆาตกรรม(18)
“ดอกไม้เป็นสิ่งที่บอกบาง ถึงจะพยายามหวังดีล้อมรั้วกันลมกันฝนให้มัน แต่เมื่อใดที่มันขาดแสงแดดที่อบอุ่น มันก็ต้องเฉาตายอยู่ดี หรือถ้ามีพายุ ถึงจะมีรั้วที่แข็งแรงก็ไม่สามารถป้องกันอะไรได้” กล่าวโดย ไฮบาระ ขณะเตือนสติโคนันในใจ(33)
“จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องมีเหตุผลเหตุผลที่คนฆ่าคนคืออะไรนั้นยังไม่รู้เลยแล้วเหตุผลที่คนช่วยคน….จะมีคำอธิบายตามหลักเหตุและผลได้ยังไง” กล่าวโดย ชินอิจิ ตอนพูดกับคนร้าย(35)
“เปล่า…ผมไม่ได้บอกให้คุณลืม คุณจะเดินไปข้างหน้ารึเปล่ามันก็เรื่องของคุณ แต่ถ้าคุณลืมเรื่องของคุณพ่อคุณไปแล้ว เขาต้องตายจริงนะสิ” กล่าวโดย มัตสึดะ จิมเปย์ ตอนพูดกับหมวดซาโต้(36)
“ความทรงจำที่มีต่อคนที่จากไปมักจะถูกเก็บไว้อย่างสวยงาม และคงอยู่ในใจคนไปจนตลอดชีวิต” กล่าวโดย ไฮบาระ
“จงเป็นตำรวจที่มีคุณธรรมปกป้องบ้านเมืองและประชาชน อย่าปล่อยให้ความเคียดแค้นส่วนตัวมาครอบงำ ไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตาม เพราะคนเรา
ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน” กล่าวโดย ผู้หมวด ซาโต้
“ถ้ามันเป็นความทรงจำที่มีค่าล่ะก็ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะคนที่ตายไปแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ก็แค่ในความทรงจำของเราเท่านั้น” กล่าวโดย ผู้หมวด
ทาคางิ ขณะเตือนสติ หมวดซาโต้(37)
“คนบางคนไม่ใช่แค่อยู่ในหัวใจของเรา แต่อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก” กล่าวโดย โคนัน
“ถึงคนที่ทำจะเป็นตัวเธอเอง ฉันก็วางมือไม่ได้อยู่ดี เพราะชั้นไม่อยากให้เพื่อนเก่าอย่างเธอต้องทรมานกับคำโกหกเศร้าๆนั้นไปตลอดชีวิต” กล่าว
โดย โมริ โคโกโร่ (37)
“ไม่มีใครดึงเวลาให้ย้อนกลับได้หรอก ถ้าหากดื้อดึงทำให้มันย้อนกลับ คนนั้นแหละที่จะถูกลงโทษ” กล่าวโดย ไฮบาระ
"พวกเราเป็นทั้งปีศาจและพระเจ้า เพราะพวกเราชุบชีวิตคนตายต่อต้านกระแสแห่งการเวลา" กล่าวโดย คริส วินยาร์ต
"แกในตอนนี้น่ะ ไม่ใช่ผู้รักษาความเป็นธรรมหรอก แต่เป็นแค่ฆาตกรโหดกระหายเลือดที่แสนอัปลักษณ์ต่างหาก" กล่าวโดย โคนัน ขณะเตือนสติค้นร้าย(5)
"ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม ความรู้สึกของฆาตกรแบบนั้น ฉันไม่อยากเข้าใจ" กล่าวโดย โมริ โคโกโร่ ขณะเตือนสติเพื่อนของเขาซึ่งเป็นฆาตกร (9)
"ปริศนาที่คลี่คลายไม่ได้...ไม่มีอยู่บนโลกนี้แน่นอน" กล่าวโดย โคนัน
“นักสืบที่ต้อนคนร้ายจนมุมจนถึงต้องฆ่าตัวตายในที่สุด ไม่ต่างอะไรกับฆาตกรหรอก” กล่าวโดย โคนัน ซึ่งบอกกับฮัตโตริ(16)
“พวกทริกก็เหมือนอักษรปริศนาอักษรไขว้ที่คนคิดขึ้น คิดกันไปคิดกันมาได้คำตอบก็ตั้งเป็นทฤษฎีเยอะแยะมากมาย แต่ที่น่าสมเพช เหตุผลที่คนฆ่า คน ถึงจะตั้งทฤษฎีขึ้นมาอธิบายยังไงฉันก็ไม่เข้าใจ ถึงจะเข้าใจได้ ก็ทำใจยอมรับไม่ได้อยู่ดี” กล่าวโดย โคนัน
“ใครๆก็มีชีวิต ตัวเราก็มีชีวิต ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า ที่ให้ใครขโมยไปไม่ได้เด็ดขาด ขึ้นชื่อว่าพรากชีวิตก็คือการฆ่าคนทั้งนั้น แม่จะเป็นชีวิตของตัวเอง ก็ตาม”
กล่าวโดย คุณแม่ของ ฮัตโตริ ตอนเตือนสติฆาตกร(28)
“ถ้าตัดความเป็นไปไม่ได้ออกไป สิ่งที่เหลือแม้จะไม่น่าเชื่อเพียงใดก็ตามแต่มันก็คือความจริง” กล่าวโดย โคนัน พูดกับฮัตโตริทางโทรศัพท์(28)
“ความอมตะ ไม่แก่ไม่ตายเป็นเรื่องเพ้อฝัน เมื่อชีวิตมีความจำกัดก็ควรถนอมมันไว้ ยิ่งมีจำกัดก็ต้องยิ่งพยายามดิ้นรน” กล่าวโดย ฮัตโตริ ซึ่งกำลังเตือนสติกับชาวเกาะไม่ให้งมงายกับความเชื่อนั้นมากเกินไป(28)
“การกระทำของคุณไม่ใช่การแก้แค้นให้ลูกชายเลย ไม่ใช่เพื่ออะไรทั้งนั้น เป็นแค่ความพอใจของตัวเอง เห็นชีวิตคนเป็นของเล่นเท่านั้น” กล่าวโดย สารวัตรเมงุเระ เตือนสติคนร้าย ขณะที่คนร้ายกำลังจะเข้ามาทำร้ายโซโนโกะ(29)
“ A secret makes a woman woman… ผู้หญิงที่มีความลับเป็นอาภรณ์ จะมีเสน่ห์ขึ้นเยอะทีเดียว” กล่าวโดย เบลม็อต พูดในตอนฝังศพแม่ของเขาเอง(34)
“อย่าหนีจากชะตาชีวิตของตัวเองเด็ดขาด” กล่าวโดย โคนัน ขณะเตือนสติไฮบาระ(29)
“การอยู่อย่างหลบๆซ่อนๆต้องคอยกลัวว่าไม่รู้เมื่อไหร่จะถูกเจอมันน่าเบื่อซะจริงๆ” กล่าวโดย ไฮบาระ
“การรับรู้จิตสังหารของคนได้เป็นซิกเซ้นต์ของคนเป็นนักสืบ” กล่าวโดย โคนัน
“Even if you are a bitter aspect of life. Drugs and murder are foul without any excuse….. deserve a red card for a
loser….. แม้ว่าคุณจะต้องเผชิญกับเรื่องเศร้าเพียงใดก็ตาม ยาเสพติดกับการฆ่าคนก็เป็นวิธีสกปรกที่ไม่มีวันอภัยได้ สมควรที่จะต้องได้รับใบแดง”
กล่าวโดย โคนัน ขณะเตือนสติ เรย์ เคอร์ติส นักฟุตบอลคนโปรด ที่ดันเป็นฆาตกรซะเอง(29)
“คนที่ประสบความสำเร็จได้คือคนที่รู้จักโอกาส ถ้าจะมัวรอให้โอกาสแบบเดิมกลับมาใหม่ รอยังไง โอกาสก็ไม่กลับมาหรอก” กล่าวโดย เซมมะ ฟุรุโยะ
“คำว่ากล้าหาญเป็นคำแห่งคุณธรรมหมายถึงขจัดความกลัวของตนและลุกขึ้นสู้…..เอามาใช้กับเหตุผลในการฆ่าคนอย่างนี้มันไม่ถูก” กล่าวโดย โมริ รัน ขณะเตือนสติคนร้าย(31)
“จอมโจรคือ ศิลปินผู้รังสรรค์การขโมยสิ่งที่ต้องการอย่างวิจิตรงดงาม นักสืบก็คือคนที่คนที่คอยเกาะตามดูผลงาน….เป็นแค่นักวิจารณ์ธรรมดาๆเท่านั้น” กล่าวโดย จอมโจรคิด ในคราวที่เจอกับโคนันเป็นครั้งแรก(16)
ตัวต่อในจิ๊กซอว์…ถึงมันจะเป็นชิ้นเล็กๆ ดูแล้วต่างกันแต่ถ้าลองหมุนปรับหลายๆมุม ยังไงมันก็ต้องลงล็อกได้แน่นอน คำให้การที่แตกต่างกันของ พยานแต่ละคนก็คือตัวต่อของรูปพรรณคนร้ายที่เราจะต้องนำมาใส่และทำหายไม่ได้แม่แต่ชิ้นเดียว”
กล่าวโดย ชินอิจิ ตอนพูดกับไฮบาระขณะไขคดีฆาตกรรม(18)
“ดอกไม้เป็นสิ่งที่บอกบาง ถึงจะพยายามหวังดีล้อมรั้วกันลมกันฝนให้มัน แต่เมื่อใดที่มันขาดแสงแดดที่อบอุ่น มันก็ต้องเฉาตายอยู่ดี หรือถ้ามีพายุ ถึงจะมีรั้วที่แข็งแรงก็ไม่สามารถป้องกันอะไรได้” กล่าวโดย ไฮบาระ ขณะเตือนสติโคนันในใจ(33)
“จำเป็นด้วยเหรอที่ต้องมีเหตุผลเหตุผลที่คนฆ่าคนคืออะไรนั้นยังไม่รู้เลยแล้วเหตุผลที่คนช่วยคน….จะมีคำอธิบายตามหลักเหตุและผลได้ยังไง” กล่าวโดย ชินอิจิ ตอนพูดกับคนร้าย(35)
“เปล่า…ผมไม่ได้บอกให้คุณลืม คุณจะเดินไปข้างหน้ารึเปล่ามันก็เรื่องของคุณ แต่ถ้าคุณลืมเรื่องของคุณพ่อคุณไปแล้ว เขาต้องตายจริงนะสิ” กล่าวโดย มัตสึดะ จิมเปย์ ตอนพูดกับหมวดซาโต้(36)
“ความทรงจำที่มีต่อคนที่จากไปมักจะถูกเก็บไว้อย่างสวยงาม และคงอยู่ในใจคนไปจนตลอดชีวิต” กล่าวโดย ไฮบาระ
“จงเป็นตำรวจที่มีคุณธรรมปกป้องบ้านเมืองและประชาชน อย่าปล่อยให้ความเคียดแค้นส่วนตัวมาครอบงำ ไม่ว่าจะกรณีใดๆก็ตาม เพราะคนเรา
ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน” กล่าวโดย ผู้หมวด ซาโต้
“ถ้ามันเป็นความทรงจำที่มีค่าล่ะก็ห้ามลืมเด็ดขาด เพราะคนที่ตายไปแล้ว เขาจะมีชีวิตอยู่ก็แค่ในความทรงจำของเราเท่านั้น” กล่าวโดย ผู้หมวด
ทาคางิ ขณะเตือนสติ หมวดซาโต้(37)
“คนบางคนไม่ใช่แค่อยู่ในหัวใจของเรา แต่อยู่ทุกลมหายใจเข้าออก” กล่าวโดย โคนัน
“ถึงคนที่ทำจะเป็นตัวเธอเอง ฉันก็วางมือไม่ได้อยู่ดี เพราะชั้นไม่อยากให้เพื่อนเก่าอย่างเธอต้องทรมานกับคำโกหกเศร้าๆนั้นไปตลอดชีวิต” กล่าว
โดย โมริ โคโกโร่ (37)
“ไม่มีใครดึงเวลาให้ย้อนกลับได้หรอก ถ้าหากดื้อดึงทำให้มันย้อนกลับ คนนั้นแหละที่จะถูกลงโทษ” กล่าวโดย ไฮบาระ
"พวกเราเป็นทั้งปีศาจและพระเจ้า เพราะพวกเราชุบชีวิตคนตายต่อต้านกระแสแห่งการเวลา" กล่าวโดย คริส วินยาร์ต
"แกในตอนนี้น่ะ ไม่ใช่ผู้รักษาความเป็นธรรมหรอก แต่เป็นแค่ฆาตกรโหดกระหายเลือดที่แสนอัปลักษณ์ต่างหาก" กล่าวโดย โคนัน ขณะเตือนสติค้นร้าย(5)
"ไม่ว่าจะมีเหตุผลอะไรก็ตาม ความรู้สึกของฆาตกรแบบนั้น ฉันไม่อยากเข้าใจ" กล่าวโดย โมริ โคโกโร่ ขณะเตือนสติเพื่อนของเขาซึ่งเป็นฆาตกร (9)
"ปริศนาที่คลี่คลายไม่ได้...ไม่มีอยู่บนโลกนี้แน่นอน" กล่าวโดย โคนัน
(ที่มา:http://www.kartoon-discovery.com/focus/conan/focus2.php)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น